Spinosaurus
- S. aegyptiacus Stromer, 1915 (ต้นแบบ)
- ?S. marocannus Russell, 1996สไปโนซอรัส (อังกฤษ: Spinosaurus) มีความหมายว่าสัตว์เลื้อยคลานมีแผง ถูกค้นพบครั้งแรกในทะเลทรายสะฮาราของอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวบาวาเรีย นาม เอิร์ล สโตรเมอร์ โดยขุดค้นไปตามชายขอบด้านตะวันออกของระบบแม่น้ำโบราณซึ่งมีหินในชั้นแคมเบรียนก่อตัวเป็นพรมแดนด้านตะวันตก
สไปโนซอรัสเป็นสัตว์กินเนื้อที่เดิน 4 ขาเป็นหลักและอาจจะยืน 2 ขาได้แต่ได้เป็นบางครั้ง มีจุดเด่น คือกระดูกสันหลังสูงเป็นแผ่นคล้ายใบเรือ รูปวงรี มี11ชิ้น ชิ้นที่ยาวที่สุดมีความยาว 1.69 เมตร เชื่อกันว่าใช้ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เนื่องจากถูกค้นพบฟอสซิลในอียิปต์จึงได้สันนิษฐานเช่นนั้น กะโหลกศรีษระมีจะงอยปากแคบที่เต็มไปด้วยฟันรูปกรวย มีหงอนคู่ขนาดเล็กอยู่เหนือดวงตา แขนแข็งแกร่งมี 3นิ้ว สามารถใช้เป็นอาวุธและจับเหยื่อได้ มีความสูง 3 เมตรถ้าเดิน 4 ขา ถ้ายืน 2 ขาจะสูง 3.9เมตร มีความยาว 15-17 เมตร โดบฟอสซิลที่สมบูรณ์ที่สุดยาว 15เมตร (ส่วนกะโหลก ยาว 1.75 ม.) น้ำหนัก 6-20ตัน อาศัยอยู่ใน ทวีปแอฟริกา มีชีวิตอยู่ในตอนกลางของยุคครีเตเชียส (100-97 ล้านปีที่แล้ว) ในช่วงที่มันอาศัยอยู่ในยุคครีเตเชียสตอนกลาง มันมีคู่แข่งที่สำคัญอย่าง คาร์ชาโรดอนโทซอรัส ที่อาศัยอยู่ยุคเดียวกันที่มีความยาว 13.8เมตรและเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับ2ของโลก สไปโนซอรัส เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ1ในโลก , มันมีญาติอย่าง ซูโคไมมัส บารีโอนิกซ์
ในปี2014 นิซาร์ ฮิบรารัม และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สไปโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์ที่หากินอยู่ในน้ำเป็นหลัก โดยมีอาหารหลัก คือ ปลา และเป็นนักกินซาก ด้วยรูจมูกซึ่งตั้งอยู่บนกะโหลกค่อนมาทางดวงตาช่วยให้หายใจได้แม้ส่วนใหญ่ของหัวจะจมลงในน้ำ และลำตัวทรงกระบอกที่คล้ายโลมาและวาฬ ส่วนความหนาแน่นของซี่โครงและกระดูกที่แขนก็คล้ายคลึงกับกระดูกของพะยูน ขาหลังที่สั้นและน่าจะเหมาะกับการว่ายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีกรงเล็บเท้าแบน ๆ ในเท้าหลังที่กว้างมีพังผืดเชื่อมต่อกันเหมือนตีนเป็ด อีกทั้งยังมีขากรรไกรเรียวยาวและฟันรูปกรวยเรียบ ๆ เหมือนกับฟันของจระเข้น่าจะใช้จับปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหลุมตรงปลายจมูกซึ่งปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นในสัตว์จำพวกจระเข้และอัลลิเกเตอร์ อาจมีตัวรับความดันสำหรับตรวจจับอาหารในน้ำขุ่น โดยเชื่อว่า เมื่อล่าเหยื่อ สไปโนซอรัสจะโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วงับปลาด้วยปากที่ยาว และเชื่อว่าสไปโนซอรัสใช้เวลาว่ายน้ำหาอาหารมากถึงร้อยละ 80 ต่อวัน [1]
ส่วนคู่แข่งอย่าง คาร์ชาโรดอนโทซอรัส นั้นปัจจุบัน ถูกมองว่า อาจจะล่าสไปโนซอรัสก็ได้ เพราะ มีการพบร่องรอยการกัดที่กระโดงของสไปโนซอรัส ซึ่งนักล่าที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็มีแต่ คาร์ชาโรดอนโทซอรัสเท่านั้น ซึ่งถ้าสไปโนซอรัส จะสู้กับคาร์ชาโรดอนโทซอรัสบนบกนั้นจะเสียเปรียบและถึงตายได้ เพราะ การที่มันเดิน4ขาเป็นหลัก ทำให้มันเตี้ย ซึ่งทางเดียวที่จะสู้คือ สไปโนซอรัสต้องอยู่ในน้ำถึงจะได้เปรียบในการต่อสู้
กระโดงบนหลังของสไปโนซอรัส เมื่อก่อนนักวิทยาศาสตร์ได้สันนิฐานว่า น่าจะใช้ในการปรับอุณหภูมิของร่างกาย จึงทำให้มันเป็นสัตว์ที่ตื่นตัวมาก แต่ในปี 2014 นิซาร์ ฮิบรารัม และนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษากระโดงอย่างละเอียดแล้วว่า กระโดงนั้นมีปริมาณเส้นเลือดน้อยมากจึงไม่สามารถใช้ในการปรับอุณหภูมิ จึงได้สันนิฐานใหม่ว่า กระโดงน่าจะใช้ในการดึงดูดเพศตรงข้ามหรือไม่ก็ใช้ในการข่มขวัญพวกเดียวกันเองหรือนักล่านักล่าที่มีขนาดเล็ก แต่ไม่ใช่กับคาร์ชาโรดอนโทซอรัสที่โตเต็มที่ และได้มีการย้ายชิ้นส่วนกระโดงที่ยาวสุดไปไว้ช่วงท้าย เพื่อเป็นประโยชน์ในการว่ายน้ำด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น